Nuttanon P.
Stellantis อาจยุติโครงการพัฒนาเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ L3 ที่เคยเปิดตัวไป
Stellantis มีรายงานว่าทางเครืออาจพิจรณายุติแผนการพัฒนาเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ STLA AutoDrive ที่เคยประกาศไว้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่แบรนด์ได้ขายฝันว่าผู้ขับจะสามารถอ่านหนังสือหรือดูวิดีโอได้ขณะอยู่หลังพวงมาลัย
ต้นทุนสูงและความต้องการตลาดจำกัด
รายงานจาก Reuters ที่อ้างอิงแหล่งข่าววงใน 3 ราย ระบุว่า Stellantis กำลังพิจารณายุติโครงการนี้ เนื่องจากต้นทุนการพัฒนาสูง ความต้องการของผู้บริโภคที่ยังไม่มากพอ และอุปสรรคด้านเทคโนโลยี
ทาง Stellantis ชี้แจงว่า เทคโนโลยีระดับ L3 ที่ถูกเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ยังไม่ได้นำออกใช้งานจริง เพราะความต้องการของตลาดมีจำกัด แต่ยืนยันว่าระบบนี้ยังคง “พร้อมสำหรับการนำไปใช้” หากถึงเวลาที่เหมาะสม
ความเสี่ยง และผลตอบแทนยังไม่สมดุล
แม้ว่าเทคโนโลยีการขับขี่กึ่งอัตโนมัติจะสามารถสร้างรายได้เสริมให้ผู้ผลิต เช่น Tesla และ Mercedes ที่คิดค่าบริการเพิ่มสำหรับระบบช่วยขับขั้นสูง แต่การลงทุนของ Stellantis ถูกมองว่าเป็น “การลงทุนสูงแต่ความเสี่ยงก็สูงมากเช่นกัน” ตามความเห็นของ Stuart Taylor ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Envorso
เขาอธิบายว่า ทางผู้ผลิตที่เลือกพัฒนาด้วยตนเองต้องรับภาระต้นทุนการพัฒนา และอาจเผชิญการขาดทุนหากผู้บริโภคไม่พร้อมจ่ายสำหรับเทคโนโลยีดังกล่าว
ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อการตัดสินใจ
ยังไม่ชัดเจนว่าปัญหามาจากห่วงโซ่อุปทานที่ยังไม่พร้อม ภาระภาษีที่สูงกว่าคาด หรือความกังวลด้านต้นทุนในระยะยาว แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ เทคโนโลยี L3 เป็นระดับแรกที่ผู้ผลิตรถยนต์ต้องรับผิดชอบบางส่วน หากเกิดอุบัติเหตุในขณะที่ระบบกำลังทำงาน
กรณีล่าสุดของ Tesla ที่แพ้คดีความสำคัญเกี่ยวกับเทคโนโลยีกึ่งอัตโนมัติ อาจทำให้ Stellantis ต้องระมัดระวังมากขึ้น เพื่อไม่ให้เผชิญปัญหาทางกฎหมายในลักษณะเดียวกัน
การเปลี่ยนแปลงผู้นำอาจมีบทบาท
อีกปัจจัยหนึ่งที่อาจเกี่ยวข้องคือการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารระดับสูง หลังจาก Carlos Tavares อดีต CEO ลาออกแบบกะทันหันเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ Antonio Filosa CEO คนใหม่ อาจกำหนดลำดับความสำคัญของแบรนด์แตกต่างออกไป
สรุปได้ว่า Stellantis อาจยังไม่พร้อมเดินหน้าโครงการขับขี่อัตโนมัติระดับ 3 อย่างเต็มตัวในตอนนี้ ไม่ใช่เพราะเทคโนโลยียังไม่พร้อม แต่เพราะความเสี่ยงทางธุรกิจ และสภาพตลาดที่ยังไม่เอื้ออำนวยนั่นเองครับ
ที่มา : Road And Track
