Xiaomi ส่งมอบรถ EV ทะลุ 40,000 คัน ต่อเนื่องในเดือนตุลาคม
Xiaomi ยังคงสร้างแรงสั่นสะเทือนในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าไม่หยุด เพราะล่าสุดยอดส่งมอบเดือนตุลาคมทะลุ 40,000 คัน ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ชี้แบรนด์สมาร์ทโฟนได้ก้าวสู่ผู้เล่น EV เต็มตัว และกำลังเข้าใกล้เป้าหมายยอดขายทั้งปีอย่างมั่นคง

ยอดขายแรงใกล้บรรลุเป้าหมายประจำปี
Xiaomi ได้ประกาศความสำเร็จผ่าน Weibo ว่าเดือนตุลาคม 2025 ทำยอดส่งมอบเกิน 40,000 คัน อีกเดือน ทำให้ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ประมาณ 297,000 คัน จากเป้าหมายทั้งปี 350,000 คัน คิดเป็น 85.7%
Xiaomi เพิ่งกระโดดเข้าตลาด EV เพียง 18 เดือน และปี 2024 ทำยอดได้ 136,794 คัน โดยได้เปิดขายครั้งแรกเดือนเมษายน 2024 จนถึงตอนนี้ยอดส่งมอบรวมทะลุ 400,000 คันแล้ว
ความต้องการสูง รอรถยาวเกือบหนึ่งปี
ความนิยมทั้ง SU7 (รถซีดานไฟฟ้า) และ YU7 (รถ SUV ไฟฟ้า) มีสูงมากทำให้ระยะการส่งมอบนานถึง 38-52 สัปดาห์
ไฮไลต์คือ Xiaomi YU7 เปิดตัวเดือนกรกฎาคม แต่กวาดยอดจอง 200,000 คัน ภายใน 3 นาที และมียอดล็อกออเดอร์ 240,000 คัน ใน 18 ชั่วโมง

ขยายโรงงานเพิ่มกำลังผลิต
เพื่อลดเวลาในการรอคอยรถจาก Xiaomi แบรนด์ได้เพิ่มกำลังผลิตโรงงานที่ปักกิ่ง เดือนมิถุนายนก็ได้ขยายพื้นที่เพิ่มอีก 485,000 ตร.ม. จะสามารถช่วยลดเวลารอส่งมอบได้ถึง 2 เดือน
ทุ่มงบพัฒนาเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ
World Intelligent Connected Vehicle Conference 2025 ทาง Xiaomi ได้เปิดเผยว่าได้ลงทุนพัฒนาระบบขับขี่อัตโนมัติไปแล้ว 5.79 พันล้านหยวน (ประมาณ 29,500 ล้านบาท)
ทีมพัฒนาด้านการขับขี่อัจฉริยะมีพนักงานมากกว่า 1,800 คน ได้ตั้งแผนกใหม่ด้านสถาปัตยกรรมยานยนต์รายงานตรงถึง CEO Lei Jun เพื่อเร่งการพัฒนา

โปรโมชันภาษีและแผนเปิดรุ่นใหม่
Xiaomi เสนอโปรแกรมสนับสนุนภาษีสำหรับลูกค้าที่จองรถก่อน 30 พฤศจิกายน เพื่อส่งมอบปี 2026 ทาง Xiaomi จะรับผิดชอบส่วนต่างภาษีหากรัฐบาลจีนกลับมาเก็บภาษีรถ EV ที่ 10%
โปรโมชันครอบคลุมทุกรุ่น เช่น
-
Xiaomi YU7 ราคาเริ่มต้น 253,500 หยวน (ประมาณ 1,290,000 บาท)
-
Xiaomi SU7 ราคาเริ่มต้น 215,900 หยวน (ประมาณ 1,100,000 บาท)
ล่าสุดก็ได้มีภาพหลุดรถรุ่นใหม่อย่าง Xiaomi YU9 ผ่านโซเชียลจีน คาดว่าจะเป็นรถ SUV ขนาดใหญ่ ยาว 5,200 มม. มาพร้อมขุมพลัง EREV วิ่งไกล 1,500 กม. คาดเปิดตัวในปี 2026
Xiaomi กำลังเดินหน้าอย่างแข็งแกร่งในตลาด EV ด้วยยอดขายที่พุ่งต่อเนื่อง ความต้องการสูงกำลังผลิตอาจยังไม่ทัน แต่บริษัทตอบสนองด้วยการขยายโรงงาน ลงทุนเทคโนโลยี และเพิ่มไลน์ผลิตใหม่ เป้าหมาย 350,000 คันใกล้ถึงขึ้นทุกวัน และอนาคตมีความเป็นไปได้ที่จะท้าชนผู้นำตลาด EV ในจีนได้เต็มตัว

ที่มา : EV
