Sahakrit S
รถยนต์ไฟฟ้าซีดาน Avatr12 จากการพัฒนาร่วมกันระหว่าง Changan, CATL และ Huawei ถูกเปิดเผยโดยหน่วยงานกำกับดูแลของจีนในระหว่างกระบวนการที่คล้ายคลึงกันในประเทศ และพร้อมสำหรับการผลิตจำนวนมากด้วยพละกำลัง 578 แรงม้า ใช้แบตเตอรี่ของ CATL และการออกแบบภายนอกที่ดูล้ำสมัยแห่งอนาคต มาทำความรู้จักกับ Avatr 12 กันครับ
เผยภาพ รถยนต์ไฟฟ้าซีดาน Avatr 12 รุ่นใหม่ล่าสุด เกิดจากการพัฒนาร่วมกันระหว่าง Changan, CATL และ Huawei
ก่อนหน้านี้ Avatr 12 เป็นที่รู้จักกันในชื่อรหัส E12 ถูกวางอยู่ในตำแหน่งรถซีดานขนาดใหญ่ ระดับไฮเอนด์ โดยสร้างบนแพลตฟอร์ม EP1เช่นเดียวกับ Avatr11 ซึ่งถูกพัฒนาโดย Huawei และ Changan ในแง่ของรูปลักษณ์ภายนอก ยังคงสอดคล้องกับภาษาการออกแบบของ Avatr ที่มีไฟหน้าดีไซน์เพรียวบาง อันเป็นที่โดดเด่นของแบรนด์ กันชนแบบสปอร์ต และมีรูปทรงที่เพรียวบางอีกด้วย ฟีเจอร์เด่นๆของ Avatr 12 คือกล้องแทนกระจกมองข้าง ไฟท้ายดีไซน์เรียวบาง และกระจกด้านหลังขนาดเล็กมาก
ดีไซน์ภายนอก
มิติตัวรถของ Avatr 12 คือ 5,020 x 1,999 x 1,460 มม. ระยะฐานล้อ 3,020 มม. เมื่อเปรียบเทียบกับ NIO ET7 ซีดาน จะสั้นกว่า 81 มม. กว้างกว่า 12 มม. และต่ำกว่า 45 มม. ยิ่งไปกว่านั้น Avatr 12 เป็นรถยนต์ที่มีน้ำหนักค่อนข้างมากสำหรับรถซีดานไฟฟ้า ในรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) มีน้ำหนัก 2,180 กก. และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) มีน้ำหนัก 2,300 กก. ภายในตัวรถเป็นรถยนต์ 5 ที่นั่ง
ขุมพลัง
ระบบส่งกำลังของ Avatr 12 มี 2 รูปแบบให้เลือก ได้แก่ มอเตอร์ไฟฟ้าเพียงตัวเดียวที่ผลิตโดย Huawei ติดตั้งไว้เพลาล้อหลัง ที่ให้กำลัง 230 kW 313 แรงม้า และสำหรับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) มีมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ที่ให้กำลัง 425 kW 578 แรงม้า ซึ่งมีระบบส่งกำลังเช่นเดียวกับ Avatr 11 ความจุของแบตเตอรี่ ยังไม่มีข้อมูล แต่เราคาดการณ์ได้ว่าจะใช้แบตเตอรี่ NMC จาก CATL ที่มีความจุ 90.4 kWh และ 116.8 kWh (โดยอ้างอิงข้อมูลแบตเตอรี่จากรุ่น Avatr 11) อาจใช้ความจุแบตเตอรี่ใกล้เคียงกัน
ในที่สุด Avatr 12 ก็ออกมาแล้ว! พร้อมสําหรับการผลิตจํานวนมากแล้ว หลังจากเปิดตัวในตลาดรถ EV เพื่อที่จะแข่งขันกับรถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ของจีนรุ่นอื่นๆ เช่น NIO ET7 และ Zeekr 001 แต่ปัจจุบัน Avatr 11 SUV ขายได้ค่อนข้างดีในประเทศจีน โดยมียอดขายสะสมมากถึง 10,755 คัน และ Avatr 12 รุ่นใหม่นี้จะมาเพิ่มประสิทธิภาพทางการตลาดของแบรนด์นี้ได้อีกด้วย
ที่มา – CarNewsChina
