รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่จาก BYD ถูกเปิดเผยในประเทศจีน ซึ่งเป็นรถ SUV ขนาดเล็กกะทัดรัด ความยาวประมาณ 4.3 เมตร ที่มีชื่อรุ่นว่า BYD Yuan UP โดยรุ่นดังกล่าวจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงครึ่งแรกของปี 2024
หลุดภาพและสเปคเบื้องต้น BYD Yuan UP รถ SUV ขนาดเล็ก ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2024
รถยนต์ทุกคันในประเทศจีน ต้องได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลก่อนที่จะออกสู่ตลาด ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (MIIT) มีหน้าที่รับผิดชอบในการเผยแพร่ชื่อรุ่น, ข้อมูลจำเพาะบางส่วน และรูปภาพของรุ่นนั้น ๆ ในกรณีนี้ทำให้ BYD ไม่พอใจอย่างมาก เนื่องจากทางกระทรวงได้เผยแพร่รูปภาพ และข้อมูลจำเพาะที่สำคัญของตัวรถ ทั้ง ๆ ที่ ทาง BYD ยังไม่ได้ประกาศชื่อรุ่น และข้อมูลจำเพาะ
สเปคเบื้องต้น
BYD Yuan UP เป็นรถ SUV ขนาดเล็ก 5 ที่นั่ง มีมิติตัวรถ 4,310 x 1,830 x 1,675 มม. และระยะฐานล้อ 2,620 มม. ส่วนเรื่องขุมพลังมาพร้อม 2 ตัวเลือก คือ มอเตอร์ไฟฟ้า (รุ่น TZ180XSF) ให้กำลัง 70 kW และมอเตอร์ไฟฟ้า (รุ่น TZ200XSW) ให้กำลัง 130 kW ซึ่งมอเตอร์ไฟฟ้า (e-motor) ผลิตโดยบริษัท Hefei BYD Automoible Co. และแบตเตอรี่ LFP (Blade Battery) ผลิตโดยบริษัท Wuwei Findream Co. ทั้ง 2 บริษัท เป็นบริษัทย่อยของ BYD น้ำหนักรถเปล่า 1,430 กก. และ 1,540 กก. ตามลำดับ ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม.
- BYD Yuan UP : 4,310 x 1,830 x 1,675 มม. ระยะฐานล้อ 2,620 มม.
- BYD Yuan Pro : 4,375 x 1,785 x 1,680 มม. ระยะฐานล้อ 2,535 มม.
- BYD Yuan Plus (ATTO 3) : 4,455 x 1,875 x 1,615 มม. ระยะฐานล้อ 2,720 มม.
BYD Yuan UP อยู่ในซีรีส์ Dynasty ของ BYD ซึ่งเป็นซีรีส์ที่ตั้งชื่อตามจักรพรรดิของจีนที่มีชื่อเสียง และใช้การออกแบบที่คล้ายกับ BYD Song L ที่เพิ่งเปิดตัวไป ตัวรถมาพร้อมออปชั่นเสริม ทั้งในหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามาและสปอยเลอร์หลังแบบสปอร์ต ล้อรถมาพร้อม 2 ขนาด คือ 16 นิ้ว พร้อมยางขนาด 215/65 R16 และ 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 215/60 R17
BYD Yuan UP เป็นรถ EV ที่เล็กที่สุดในตระกูล Yuan ซึ่งประกอบด้วย BYD Yuan Plus (ATTO 3) และ BYD Yuan Pro รุ่นดังกล่าวมีแนวโน้มว่าจะเปิดตัวด้วยราคาที่ต่ำกว่า 100,000 หยวน (14,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 4.99 แสนบาท) และเมื่อพิจารณาจากรุ่นพี่ที่ใหญ่กว่าเล็กน้อยอย่าง BYD Yuan Pro EV ด้วยมอเตอร์กำลัง 70 kW มีราคาเริ่มต้นที่ 95,800 หยวน (13,400 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 4.78 แสนบาท)
ที่มา – CarNewsChina