Sakura P.
เครื่องชาร์จ Supercharger V4 ของ Tesla ได้ถูกติดตั้งในยุโรปเป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้ใช้บางส่วนยังคงพบปัญหาด้านการชาร์จอยู่บ้าง ล่าสุดมีการพบข้อมูลสเปคใหม่ที่ชี้ว่า Tesla พัฒนาเครื่องชาร์จให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง
เผยสเปค Tesla Supercharger V4 แรงดันไฟฟ้ากว้าง รองรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่น ๆ มากขึ้น
@MarcoRPi1 ผู้ใชับัญชี X ที่มักจะอัปเดตข่าวสารเกี่ยวกับ Supercharger ได้โพสต์ข้อมูลสเปคของเครื่องชาร์จ Supercharger V4 ใหม่ว่า เครื่องชาร์จสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ 250kW (อาจะมีการเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต) มีช่วงแรงดันไฟฟ้ากระแสตรง 0-5000VDC รองรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) หลากหลายรุ่น
เครื่องชาร์จ Supercharger V4 รองรับมาตรฐานการชาร์จสากลที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น NACS ของ Tesla เอง รวมถึง CCS1, CCS2 และ GB/T ทำให้สามารถรองรับการชาร์จรถยนต์จากผู้ผลิตรายอื่นได้ รองรับมาตรฐานการสื่อสารสากล มีส่วนการชำระเงินเสริมที่จำเป็นสำหรับการชำระเงินใบบางภูมิภาค ทนต่อน้ำท่วมได้สูง 1 เมตร การออกแบบกระทัดรัด ช่วยให้สามารถติดตั้งในสภาพแวดล้อมที่มีพื้นที่จำกัดได้
ถึงแม้ว่าสเปคของ Supercharger V4 บ่งบอกถึงประสิทธิภาพที่ดีของเครื่องชาร์จ แต่ผู้ใช้บางส่วนก็ได้วิพากวิจารณ์ด้วยการอ้างถึงประสบการณ์ส่วนตัวที่พบกับปัญหาสายชาร์จหลุดออกจากรถ เมื่อเจอสภาพอากาศที่เลวร้าย โดยมีการอธิบายว่า สายชาร์จค่อนข้างหนัก รวมกับข้อบกพร่องด้านการออกแบบทำให้สายชาร์จหลุดจากการเชื่อมต่อบ่อยครั้งระหว่างชาร์จ
เมื่อการวิพากวิจารณ์นี้ไปถึง Tesla บริษัทก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ตอบกลับทันทีที่ทราบว่า บริษัทรับทราบข้อเสนอแนะ และสัญญาว่าจะเร่งดำเนินการปรับแต่งแท่นวางสายชาร์จและปรับปรุงด้านความยืดหยุ่นโดยเร็วที่สุด
ก่อนหน้านี้ Tesla ได้ขายเครื่อง Supercharger ให้กับ BP Pulse บริษัทน้ำมันและก๊าซรายใหญ่ของอังกฤษ มูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อนำไปติดตั้งในปั๊มน้ำมัน BP ทั่วสหรัฐอเมริกา รวมถึง EG Group ธุรกิจปั๊มน้ำมันและร้านฟาสต์ฟู้ดในยุโรป สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย ได้ซื้อเครื่องชาร์จ Supercharger รุ่นล่าสุด เพื่อนำไปใช้ในธุรกิจ “evpoint” ในประเทศอังกฤษและยุโรปด้วย เพื่อขยายธุรกิจการชาร์จให้เติบโตมากขึ้น
Supercharger V4 ได้ถูกขยายตัวอย่างต่อเนื่องในยุโรป มีทั้งการติดตั้งใหม่และอัปเกรดเวอร์ชันเก่า ชี้ให้เห็นว่า Tesla มุ่งมั่นในการสร้างมาตรฐานากรชาร์จสากล ซึ่งปัจจุบันมีจุดให้บริการ Supercharger กว่า 50,000 แห่งทั่วโลก และเตรียมปูทางไปสู่อนาคตการขนส่งด้วยพลังงานสะอ
ที่มา notateslaapp
