ใน

ประธาน Toyota เผย รถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ไม่มีวันครองโลก มีส่วนแบ่งในตลาดดีสุดเพียงแค่ 30%

หลังจากที่มีข่าวว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั้งในสหราชอาณาจักรและยุโรปเริ่มชะลอตัวในช่วงปลายปี 2023 ล่าสุด Akio Toyoda ประธาน Toyota เผยว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะครองตลาดไม่เกิน 1 ใน 3 ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด และผู้บริโภคไม่ควรถูกบังคับให้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า

ประธาน Toyota เผย รถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ไม่มีวันครองโลก มีส่วนแบ่งในตลาดดีสุดเพียงแค่ 30%

Akio Toyoda กล่าวระหว่างพูดคุยกับพนักงานว่า เขาเชื่อว่ารถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) จะครองตลาดได้สูงสุดเพียง 30% เท่านั้น และในส่วนที่เหลืออีก 70% จะเป็นรถยนต์น้ำมัน รถยนต์ไฮบริด และรถยนต์ไฮโดรเจน  โดยส่วนแบ่ง 30% ที่ประธาน Toyota กล่าวนั้นน้อยกว่าส่วนแบ่งรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดรถยนต์สหราชอณาจักรปัจจุบันถึงสองเท่า

Toyoda ได้โต้แย้งเพิ่มเติมว่า ความน่าสนใจของรถยนต์ไฟฟ้ามีขีดจำกัด เนื่องจากประชากรอีกหนึ่งพันล้านคนในโลกยังคงใช้ชีวิตแบบไม่มีไฟฟ้าใช้ รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้ายังคงมีราคาสูงและจำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชาร์จ

นอกจากนี้ Toyoda ได้ตอบโต้ข้อกล่าวหาที่เรื่อง Toyota ตามหลังคู่แข่งในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเขายืนยันว่าบริษัทมุ่งเน้นผลิตเทคโนโลยีทางเลือกอื่น ๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะต่อสู้ลำพัง

Toyoda ยังได้พูดถึงการประกาศล่าสุดของ Toyota ว่า บริษัทกำลังพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปใหม่ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องให้พนักงานในโรงงานด้านเครื่องยนต์มีบทบาทในการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด และเขาก็คาดการณ์ว่า ธนาคารอาจจะหยุดให้กู้ยืมเงินแก่บริษัทที่ยังคงผลิตเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันในเร็ว ๆ นี้

Toyota ยังคงเชื่อมั่นในกลยุทธ์ “แนวทางหลายเส้นทาง” ของ Toyota โดยให้เหตุผลว่าลูกค้าควรจะเลือกรถประเภทใดก็ได้ที่เหมาะกับความต้องการของตนเอง และการเปลี่ยนผ่านไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าอาจจะได้รวดเร็วตามที่หลายคนคาดการณ์ไว้

โดยกลยุทธ์ดังกล่าวนี้ได้ถูกพิสูจน์โดยยอดการผลิตรถยนต์จำนวน 9.2 ล้านคันในปี 2023 ซึ่งคาดว่าจะผลิตเกิน 10 ล้านคันก่อนจบเดือนสุดท้ายของปี 2023 ในขณะที่ยอดขายตั้งแต่เดือนมกราคม – พฤศจิกายนนั้นเพิ่มขึ้น 7% เป็น 10.2 ล้านคัน

เมื่อปีที่ผ่านมา Koji Sato ผู้บริหารระดับสูงของ Toyota เคยให้สัญญาว่า Toyota จะขายรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) ให้ได้ 1.5 ล้านคันต่อปี ภายในปี 2026 และจะแตะ 3.5 ล้านคันต่อปี ภายในปี 2030 เมื่อหันไปมอง Tesla ที่เป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ทีสุดในโลก มีการส่งมอบได้ 1.8 ล้านคันในปี 2023 ที่ผ่านมา

การออกมาพูดของประธาน Toyoda ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากมีข่าวว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในสหราชอาณาจักชะลอตัวลงช่วงปลายปี 2023 ซึ่งสมาคมผู้ผลิตและผู้ค้ายานยนต์ส่วนใหญ่กล่าวว่า ส่วนแบ่งการตลาดของรถยนต์ไฟฟ้าในสหราชอาณาจักรหดตัวลง เนื่องจากรถมีราคาสูงและความกังวลจุดชาร์จไม่เพียงพอ

โดยส่วนแบ่งของรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดรถยนต์ใหม่โดยรวมลดลงจาก 16.6% ในปี 2022 เป็น 16.5% ในปี 2023 น้อยกว่าที่ SMMT คาดการณ์ไว้ที่ 17.2%

ปัจจุบันกลุ่มล็อบบี้เรียกร้องให้ Jeremy Hunt นายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักรเร่งความต้องการของรถยนต์ไฟฟ้าด้วยการลดภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเวลา 3 ปี ในปีงบประมาณถัดไปที่จะครบกำหนดในวันที่ 6 มีนาคม

แต่บรรดารัฐมนตรีก็พยายามหลีกเลี่ยงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ พร้อมทั้งบังคับให้ผู้ผลิตเพิ่มสัดส่วนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าล้วนภายใต้ข้อบังคับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ ถ้าหากผู้ผลิตรถยนต์ไม่ปฏิบัติตามก็จะถูกปรับ

ข้อบังคับจะเริ่มใช้ในปีนี้ โดยเเป้าหมายสัดส่วนของรถยนต์ไฟฟ้าจะต้องเป็น 22% ในปี 2024 เพิ่มขึ้นเป็น 28% ในปี 2025 เพิ่มขึ้นเป็น 52% ในปี 2028 และเป็น 80% ในปี 2030

แน่นนอนว่ากลุ่ม Toyota ได้ต่อต้านการนำนโยบายนี้ไปใช้ โดยบอกกับรัฐบาลว่า Toyota มีความกังวลอย่างยิ่งกับเป้าหมายในปีนี้ที่จะไม่สามารถปฏิบัติตามได้ ซึ่งบริษัทอ้างว่าบทลงโทษของข้อบังคับนี้จะลงโทษทั้งด้านการเงินและในแง่ชื่อเสียงของแบรนด์ ซึ่ง Toyota พยายามชักชวนให้ชะลอโครงการนี้ออกไปหนึ่งปี และเรียกร้องให้รถยนต์ประเภทไฮบริดมีส่วนร่วมด้วย

ที่มา The Standard แหล่งข้อมูล Yahoo.finance, ภาพ electrek

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sakura P.