Sakura P.
ผู้ผลิตรถยนต์จีนตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตแบบเต็มรูปแบบนอกประเทศจีนเป็น 2 เท่า โดยหวังว่าจะเอาชนะภาษีนำเข้าของรถยนต์ที่ผลิตในจีนและตอบสนองความต้องการของรถยนต์ไฟฟ้าในต่างประเทศ
จีนตั้งเป้าผลิตรถยนต์ไฟฟ้านอกประเทศ เพิ่มขึ้น 2 เท่า เพื่อเอาชนะภาษีรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปและสหรัฐอเมริกา
รายงานจาก Bloomberge เผยว่า ผู้ผลิตรถยนต์จีนเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าประจำปีในโรงงานต่างประเทศจาก 1.2 ล้านคันในปี 2023 เป็นมากกว่า 2.7 ล้านคัน ภายในปี 2026
สาเหตุมาจาก สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และตุรกี เตรียมกำหนดภาษีการนำเข้ารถยนต์ที่ผลิตจากจีน จึงทำให้บริษัทผลิตรถยนต์ต่าง ๆ ในจีนต่างทุ่มเงินลงทุนมหาศาล สำหรับการผลิตรถยนต์แบบเต็มรูปแบบ โดยรวมขั้นตอนหลักในการผลิตมี 4 ขั้นตอนด้วยกัน ได้แก่ การปั๊ม การเชื่อม การพ่นสี และการประกอบขั้นสุดท้าย
รายงานเผยว่า ถึงแม้ว่าการผลิตตามขั้นตอนดังกล่าวจะมีต้นทุนสูง แต่ก็มีกำลังการผลิตสูง เมื่อเทียบกับการประกอบแบบ Knock-down โดยบริษัทผู้ผลิตจีนจะผลิตชิ้นส่วนสำคัญของรถยนต์ในจีน และจะส่งชิ้นส่วนไปประกอบในต่างประเทศ
Bloomberge รายงานว่า เนื่องจากตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในจีนเริ่มอิ่มตัว การแข่งขันภายในประเทศก็เพิ่มมากขึ้นและกำลังการผลิตที่มากเกินไป ทำให้แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจีนต้องขยายกิจการไปยังต่างประเทศ เพื่อแสวงหาการเติบโตต่อไป
ปัจจุบัน ผู้ผลิตรถยนต์จีนสร้างโรงงานผลิตแบบเต็มรูปแบบใน 9 ประเทศ ในปี 2023 มีกำลังการผลิตรวม 1.2 ล้านคันต่อปี และผู้ผลิตคาดหวังว่าจะเพิ่มโรงงานอีกใน 10 ประเทศภายในปี 2026 เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 2 เท่า ประมาณ 2.7 ล้านคัน
การขยายธุรกิจยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดย BYD ร่วมกับ Chery, Changan, GAC และ SAIC ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน ประกาศเปิดโครงการใหม่ ขยายโรงงานในต่างประเทศอีก 10 โครงการ ตั้งแต่ปี 2023 จนถึงเดือนสิงหาคมปีนี้ได้เปิดโรงงานไปแล้วในประเทศ ไทย อินโดนีเซีย และบราซิล
ทางฝั่งยุโรปก็มีการขยายกิจการด้วยเช่นกัน โดยมี BYD และ Volvo ภายใต้ Geely เป็นผู้ขับเคลื่อนการขยายกิจการในยุโรป ซึ่งปัจจุบัน BYD กำลังสร้างโรงงานในฮังการี และในตรุกี ทำให้เปิดตลาดในสหภาพยุโรปได้ รวมถึงบริษัทยังหาการลงทุนใน สเปน อิตาลี และโปแลนด์ รายงานเผยว่าผู้ผลิต Geely, Dongfeng และ Xpend กำลังมองหาสถานที่สร้างโรงงานในยุโรปเพิ่มเติม
ที่มา electrek
