Thanakrit Kongpon
Nissan ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นรายนี้กำลังจะเปิดโรงงานผลิตแบตเตอรี่แบบ Solid-State ภายในปี 2023 ประหยัดลดต้นทุนการผลิต + จุพลังงานได้เยอะกว่า
Nissan เตรียมเปิดตัวรถ EV พร้อมใช้แบตเตอรี่แบบ Solid-State ในอีก 5 ปีข้างหน้า
Nissan กล่าวว่าตัวบริษัทนั้นอยู่ใน “ตำแหน่งผู้นำ” ด้านการผลิตแบตเตอรี่ Solid-State แบบไร้ของเหลวราคาไม่แพง เป็นชุดแรกภายในปี 2025 โดยนำมาใส่ในรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ดังกล่าว ซึ่งมีกำหนดผลิตล็อตใหญ่ในปี 2028
จากรองประธานอาวุโสฝ่ายวิจัยและพัฒนาของบริษัท Nissan ในยุโรปอย่าง David Moss ซึ่งได้พูดคุยกับสื่อสิ่งพิมพ์ในสหราชอาณาจักรอย่าง Autocar เกี่ยวกับความก้าวหน้าของค่ายรถตนเองในด้านเทคโนโลยี Solid-State
จากที่ Nissan เคยกล่าวไว้ว่าในช่วงการพัฒนาแบตเตอรี่ Solid-State ทางบริษัทจะสร้างโรงงานนำร่องเพื่อผลิตแบตเตอรี่ตัวต้นแบบสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2021 และ 1 ปีต่อมา แบตเตอรี่ตัวต้นแบบได้ดำเนินการการพัฒนา ที่ศูนย์วิจัย Nissan ในจังหวัดคานางาวะ ประเทศญี่ปุ่น
ตอนนี้ รองผู้บริหารได้ยืนยันไทม์ไลน์โดยพื้นฐานกับทาง Autocar แล้วว่า Nissan อยู่ในระหว่างดำเนินการนำร่องผลิตแบตเตอรี่ Solid-State ภายในปี 2025 แค่จำนวนจำกัด จากนั้นเสร็จสิ้นการวางแผนการในเทคโนโลยีเบื้องต้นภายในปี 2026 และผลิตรถ EV จำนวนมากเป็นรุ่นแรกที่เทคโนโลยีนี้ภายในปี 2028
นอกจากนี้ Moss ยังกล่าวอีกว่า Nissan ได้ดำเนินการพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในแบบที่ใช้กับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นปัจจุบันต่อไป โดยตั้งเป้าที่จะปล่อยตัวรุ่นต่อไปภายใน 2-3 ปีข้างหน้า จากนั้นในปี 2028 จะเป็นรุ่นที่ไม่มีส่วนประกอบจากโคบอลต์ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนได้มากถึง 65%.
สำหรับตัว Solid-State ข้อดีของแบตเตอรี่ชนิดนี้ เรียกได้ว่าดีกว่าแบตเตอรี่ที่มีอยู่ในปัจจุบันอย่างเห็นได้ชัด โดยเริ่มจากการมีประสิทธิภาพเพิ่มความเร็วในการชาร์จเป็นสามเท่า ชาร์จพลังงานได้ไวกว่า 400 กิโลวัตต์ไม่ว่าอุณหภูมิจะเป็นแบบไหนจุพลังงานได้เป็นสองเท่ามากกว่ารุ่นใกล้เคียงกัน ในราคาที่ถูกกว่าครึ่ง
ทั้งนี้การทำงานร่วมกันของนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดและวิศวกรของ Nissan ในญี่ปุ่นสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่จากเซลล์ขนาดเล็กเท่ากระดุมไปเป็นเซลล์สี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม 10 เซนติเมตรในระหว่างการพัฒนาตอนนี้ โดยขนาดสุดท้ายของเซลล์จะเทียบเคียงได้กับขนาดของเซลล์ดังกล่าว
Moss เสริมว่าแบรนด์ญี่ปุ่นต้องการเอาของเหลวออกจากแบตเตอรี่โดยสมบูรณ์ โดยบอกว่าสิ่งนี้จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพในการจัดเก็บและถ่ายโอนพลังงานได้อย่างมาก
ในท้ายที่สุดหาก Nissan บรรลุเป้าหมายของเขาเหล่านี้หมายความว่า แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตจะมีน้ำหนักเบาลง ใช้งานได้ยาว ๆ วิ่งได้ไกลและชาร์จได้ไวกว่ารถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันมาก ๆ ในขณะที่ต้นทุนทางการผลิตก็น้อยลงไปด้วย
ที่มา – insideevs
