Sakura P.
ยอดส่งมอบรถยนต์ของ Tesla ในประเทศจีนลดลง เนื่องจากต้องเผชิญกับหลายปัจจัยที่ทำให้ความต้องการลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความนิยมของผู้บริโภคจีนที่หันไปเลือกแบรนด์ท้องถิ่นมากขึ้น ท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ
Tesla เน้นย้ำว่ารถ “ผลิตในจีน Made in China” หลังยอดส่งมอบในจีนลดลง
Tesla บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอเมริกันพยายามรับมือกับกระแสต้านสินค้าสหรัฐฯ โดยเน้นย้ำว่ารถยนต์ไฟฟ้าของตน “ผลิตในจีน (Made in China)” ทั้งหมด
จากข้อมูลของสมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของจีน (CPCA) ระบุว่า Tesla ผลิตรถรุ่น Model 3 และ Model Y ได้จำนวน 58,459 คัน ที่โรงงาน Gigafactory ในเซี่ยงไฮ้ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ตัวเลขนี้ลดลงประมาณ 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ตัวเลขนี้จะเป็นจำนวนการผลิตทั้งหมดในจีน แต่ Tesla ก็ส่งออกรถประมาณครึ่งหนึ่งไปยังตลาดอื่น
เมื่อดูจากข้อมูลการลงทะเบียนประกันภัยรถยนต์ในจีน ยังชี้ให้เห็นว่ายอดส่งมอบของ Tesla ในประเทศจีนในไตรมาสนี้ ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว รวมถึงไตรมาสแรกของปี 2025 ด้วย
ปัจจุบัน Tesla เผชิญกับหลายปัจจัยในตลาดจีน โดยปัจจัยสำคัญที่สุดคือการแข่งขัน ประเทศจีนถือเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่มีการแข่งขันสูงที่สุดในโลก มีผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าท้องถิ่นจำนวนมากที่สามารถผลิตรถได้ในปริมาณมากและราคาย่อมเยา
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า บริษัทรถยนต์จีนบางรายกำลังมุ่งเป้าไปที่การแย่งลูกค้าของ Tesla โดยเฉพาะในตลาดรถรุ่น Model 3 และ Model Y ตัวอย่างเช่น Xiaomi ที่เริ่มเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก Tesla อย่างชัดเจน
สงครามการค้าที่เริ่มขึ้นตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็มีผลกระทบต่อ Tesla ด้วยเช่นกัน ท่าทีของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่กดดันจีนและข้อความในเชิงลบต่อประเทศจีน เช่น คำพูดของรองประธานาธิบดี JD Vance ที่เรียกชาวจีนว่า “ชาวนา” ส่งผลให้ผู้บริโภคจีนไม่ต้องการซื้อสินค้าจากแบรนด์อเมริกัน
และเนื่องจาก Elon Musk ซีอีโอของ Tesla มีความใกล้ชิดกับทรัมป์ ทำให้ Tesla กลายเป็นเป้าหมายมากเป็นพิเศษ
เพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้ Tesla จึงพยายามเปลี่ยนแนวทางการสื่อสารในจีน โดยเน้นย้ำว่ารถของตนทั้งหมดถูกผลิตในจีนและใช้ชิ้นส่วนจากจีนเป็นหลัก
ในโพสต์ประชาสัมพันธ์ของบริษัท ได้มีข้อความว่า “This is Tesla, this is ‘Made in China’”
นอกจากนี้ Tesla ยังพยายามกระตุ้นยอดขายด้วยการให้ส่วนลด และเสนอโปรโมชันดอกเบี้ย 0% แบบมีเงินสนับสนุนในประเทศจีน เพื่อต่อสู้กับความต้องการที่ลดลง
ที่มา electrek
