Thanakrit Kongpon
Masterplan Part 3 จะถูกเผยในงาน Investor Day ที่จัดโดย Tesla ในวันที่ 1 มีนาคมนี้ที่ Giga Texas โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ และแนวทางการพัฒนาพลังงานที่ยั่งยืน
Tesla เตรียมเผย Master Plan พาร์ทที่ 3 ในงาน Investor Day 1 มีนาคมนี้ ที่ Giga Texas
Tesla ประกาศงาน “Investor Day” เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนมีนาคม โดยเป็นงานที่เชิญนักลงทุนบางส่วน เพื่อแสดงให้เห็นความก้าวหน้าของทาง Tesla แถมงานนี้จะมีการถ่ายทอดสดผ่านช่องทาง livestream ด้วย
นอกจาก Investor Day แล้ว Tesla ยังมี event อื่น ๆ เช่น Battery Day ที่เป็นการประชุมผู้ถือหุ่นพร้อมแถลงการณ์เกี่ยวกับสินค้าของบริษัทนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง, AI Day ที่เป็นงานเปิดตัวหุ่นยนต์หรือเทคโนโลยี AI จากทางบริษัท Tesla
บริษัท กล่าวว่า Investor Day จะมีการเยี่ยมชมโรงงานและการอภิปรายเกี่ยวกับแผนการขยายระยะยาวของ Tesla และแพลตฟอร์มรถยนต์รุ่น 3 ที่กำลังจะมาถึงนี้ รวมถึง “Master Plan” ใหม่ล่าสุดของเทสลา
ซึ่ง Master Plan Part 1 – 2 ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านั้นบนบล็อก ของเว็บไซต์ Tesla ในปี 2006 โดยแต่ละพาร์ทที่ได้ประกาศออกมานั้น มีดังนี้..
Master Plan Part 1
เป้าหมายคือการวางวิสัยทัศน์เบื้องหลังของบริษัท Tesla และบอกให้ผู้คนรับรู้ว่าบริษัทกำลังวางแผนจะทำอะไร แนวคิดคือ แทนที่แผนอุตสาหกรรมยานยนต์จะถูกปกปิดเป็นความลับ Tesla จะแจ้งล่วงหน้าเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องการทำเพื่อเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรม นำเราไปสู่อนาคตที่รถยนต์ใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด โดยสรุปง่าย ๆ 4 ข้อได้แก่
- สร้างรถสปอร์ต
- สร้างรถราคาไม่แพง
- สร้างรถที่มีราคาย่อมเยามากขึ้น
- ในขณะที่สร้างรถตามขั้นตอนที่ 1-3 ต้องสร้างรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่สร้างมลพิษให้กับโลก
จะเห็นได้ว่าบริษัทได้ผลิต Tesla Roadster , Tesla Model S ซึ่งเดิมตั้งใจจะเริ่มต้นราคาที่ 50,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.6 ล้านบาท) และ Tesla Model 3 เดิมทีตั้งใจจะเริ่มต้นที่ 35,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.1 ล้านบาท)
จากนั้น 10 ปีต่อมา ในปี 2016 บริษัทได้เสร็จสิ้นสองขั้นตอนแรก และอยู่ในขั้นตอนของการซื้อกิจการ SolarCity และดำเนินการขั้นสุดท้ายกับ Model 3 ด้วยเหตุนี้ Master Plan พาร์ทแรกได้สิ้นสุดเป็นที่เรียบร้อย
Master Plan Part 2
โดยพาร์ทนี้ได้วางแผนงานในอนาคตของบริษัท โดยสรุปได้ทั้งหมด 4 ข้อดังนี้
- สร้าง solar roof ที่น่าทึ่งด้วยที่เก็บแบตเตอรี่ในตัวแบบไร้รอยต่อ
- ขยายสายผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าเพื่อตอบสนองกลุ่มหลักทั้งหมด
- พัฒนาความสามารถของโหมด self-driving ให้ปลอดภัยกว่าเกียร์ธรรมดาถึง 10 เท่าผ่านการเรียนรู้จำนวนมาก
- เปิดใช้งานรถของคุณเพื่อสร้างรายได้ให้กับคุณเมื่อคุณไม่ได้ใช้งาน
ขั้นตอนเหล่านี้ซับซ้อนและเฉพาะเจาะจงกว่าเล็กน้อย นอกจากนี้ Tesla อาจประสบความสำเร็จในการนำรถออกสู่ตลาดน้อยกว่าขั้นตอนของแผนเดิม โดยแต่ละขั้นตอนสามารถลงรายละเอียดได้ดังนี้
โดยข้อที่ 1 ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว และลูกค้าบางรายมีโซลาร์รูฟแล้ว แต่อย่างไรก็ตามการติดตั้งโซลาร์รูฟจำนวนมากกลับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และ Tesla ได้ลดการติดตั้งโซลารูฟลงอย่างมาก
ข้อที่ 2 นั้นเสร็จสมบูรณ์โดยพื้นฐานแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าเรานิยามคำว่า “กลุ่มหลัก” ว่าอย่างไร ทั้งนี้ Cybertruck ใกล้จะเข้าสู่การผลิตแล้ว และน่าจะใกล้ออกสู่ตลาดพอๆ กับ Model 3 ในตอนที่ พาร์ทที่ 2 ถูกโพสต์ Tesla Semi ได้นำออกไปใช้จริงบนถนนในแล้ว และ Tesla มีทั้งรถเก๋งหรูหราขนาดใหญ่และขนาดกลางและรถครอสโอเวอร์ เหล่านี้เป็นกลุ่ม “หลัก” ของยานพาหนะแม้ว่า Tesla จะไม่มีรถยนต์ราคาไม่แพงอย่างแท้จริง (แม้ Model 3 จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 43,000 ดอลลาร์ก็ตามก่อนที่จะถูกปรับลงตามมา) หรือรถซีดานหรือแฮทช์แบคขนาดเล็ก หรือรถสปอร์ตแต่นั่นก็ไม่ใช่กลุ่มหลักจริงๆ
ข้อที่ 3 มีรายงานความปลอดภัยของระบบ Autopilot ล่าสุดของ Tesla ส่วนใหญ่จะใช้บนทางหลวง ซึ่งปลอดภัยกว่าถนนในเมืองอย่างมาก และรถใหม่ก็ปลอดภัยกว่ารถรุ่นเก่าเช่นกัน เมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์ของ Tesla ที่ไม่มี Autopilot ทำงานอยู่ Autopilot นั้น “ปลอดภัยกว่าระบบแมนนวล” เพียงประมาณ 2.7 เท่า และนี่ยังไม่รวมถึงความแตกต่างของทางหลวงกับพื้นผิวถนนด้วย
ข้อ 4 ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัด
Master Plan Part 3
แล้วพาร์ที่ 3 ล่ะจะเป็นยังไง
การประกาศของ Musk ในวันนี้ชี้ให้เห็นว่า “หนทางสู่อนาคตที่สมบูรณ์แบบของพลังงานที่ยั่งยืนสำหรับโลกจะถูกนำเสนอในวันที่ 1 มีนาคม”
Master Plan 3, the path to a fully sustainable energy future for Earth will be presented on March 1.
The future is bright! pic.twitter.com/11ug0LRlbD
— Elon Musk (@elonmusk) February 8, 2023
Tesla เคยกล่าวถึง Master Plan พาร์ทที่ 3 ก่อนหน้านี้ไว้ว่า การผลิตยานพาหนะและชุดแบตเตอรี่รวมถึงการขุดค้นและปรับแต่ง ให้เพียงพอที่จะเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานทั้งหมดของโลก เมื่อเร็ว ๆ นี้ Tesla กำลังพิจารณาเข้าสู่ช่วงการขุดค้นข้อมูล ซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งของการปรับปรุง Master Plan และมีข่าวลือว่าต้องการสร้างโรงงานในเม็กซิโกด้วย
แถลงการของ Elon Musk ชี้ให้เห็นว่าแผนดังกล่าวจะไม่ใช่แค่การพูดคุยเกี่ยวกับรถยนต์เพียงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงด้านพลังงานทางเลือกที่ยั่งยืนอีกด้วย ผลิตภัณฑ์ด้านพลังงานที่ยั่งยืนในปัจจุบันของ Tesla ได้แก่ ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ , กระเบื้องหลังคาพลังงานแสงอาทิตย์ และการติดตั้งแบตเตอรี่เก็บไฟฟ้า Powerwalls ภายในบ้านและครัวเรือน นอกจากนี้มีโปรแกรม Virtual Power Plant ของ Tesla ซึ่งเจ้าของ Powerwall สามารถเข้าร่วมเครือข่ายที่เก็บพลังงานแบบกระจายเพื่อช่วยสำรองพลังงานได้ในเวลาที่ต้องการ
โดยพื้นฐานแล้วสิ่งเหล่านี้ครอบคลุมไปถึงข้อที่ 4 ของ Masterplan พาร์ทแรกและข้อที่ 1 ของ Materplan พาร์ทที่ 2 ดังนั้นเราจึงสงสัยว่าสิ่งเหล่านี้จะปรากฏตัวใน Masterplan พาร์ทที่ 3
ยิ่งไปกว่านั้น ภาพที่ได้ใช้โฆษณานั้นมีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก เนื่องจากรูปแสดงให้เห็นถึง pattern โครงรถ Model 3 ซึ่งหมายถึงการเน้นการเพิ่มการผลิตรถจำนวนมากขึ้น ตามที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ เนื่องจาก Tesla ยังคงวางแผนที่ขยายการผลิตและการส่งมอบรถยนต์ประมาณ 50% ต่อปีในอนาคตอันใกล้ Tesla ส่งมอบรถยนต์ได้ 1.3 ล้านคันในปี 2022 ซึ่งเพิ่มขึ้น 40% จากปี 2021 และต้องการส่งมอบรถยนต์จำนวน 1.8-2 ล้านคันในปี 2023
และบางทีแม้ว่า Tesla จะปล่อยรูปภาพของโครงรถของ Model 3 แต่ก็อาจจะประกาศเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่มีการผลิตเป็นจำนวนมากเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ Investor Day จะรวมการอภิปรายเกี่ยวกับแพลตฟอร์ม “รุ่นที่ 3” ซึ่งคาดว่าราคารถรุ่นนี้จะมีราคาย่อมเยาว์กว่ารุ่น Model 3 และ Model Y เนื่องจากเดิมทีรถยนต์เหล่านั้นมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 35,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.1 ล้านบาท) ขั้นตอนต่อไปคือการเปิดตัวรถยนต์ที่มีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 25,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 8 แสนบาท) แต่ต้องกลับมาดูที่ Tesla ว่ารถแพลตฟอร์มรุ่นที่ 3 จะอยู่ใน Masterplan พาร์ทต่อไปหรือไม่ ต้องจับตาดูในวันที่ 1 มีนาคมที่จะถึงนี้ในงาน Investor Day
ที่มา – electrek
