ใน , ,

12 ฟีเจอร์ลับ บนรถ Tesla ที่คุณไม่ควรพลาด

Tesla ต่างจากรถทั่วไปไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังอย่างเดียวเท่านั้น ตัวรถเองก็มีฟีเจอร์ซ่อนอยู่ด้วย ทั้งเจ๋งและน่าสนใจที่คุณไม่คาดคิดมาก่อน ดังนั้นนี่คือฟีเจอร์ที่ซ่อนอยู่ของ Tesla ที่ดีที่สุด 13 อย่างที่คุณควรใช้ มาดูกันเลย

12 ฟีเจอร์ลับ บนรถ Tesla ที่คุณไม่ควรพลาด ได้แก่..

 

1.Use your Tesla as a dash cam (ใช้ Tesla แทนกล้องติดรถ)

คุณไม่ต้องการกล้องหน้ารถที่ดีที่สุดเมื่อคุณใช้ Tesla เพราะ Tesla จะเป็นกล้องหน้ารถให้กับคุณเอง โดยกล้องของทางรถ Tesla จะบันทึกทุกอย่างที่เกิดขึ้นตรงหน้ารถของคุณในขณะที่จอดรถ แต่ต้องใช้ USB Flash Drive ที่มีฟอร์แมตเป็น Fat32 เพื่อเก็บคลิปเหล่านั้น 

โดยคลิปวิดีโอที่บันทึกจะเก็บอยู่ในโฟลเดอร์ TeslaCam ภายหลังที่คุณเสียบเข้ากับพอร์ต USB ที่คอนโซลกลางรถหรือช่องเก็บข้องหน้ารถ คุณจะเห็นจุดสีแดงปรากฎบนจอสัมผัสนั่นแปลว่าฟีเจอร์การใช้งานนี้พร้อมใช้งานแล้ว และยังคงเหมือนกับกล้องติดหน้ารถทั่วไปที่จะเก็บวิดีโอที่บันทึกไว้แค่ 10 นาที เพื่อป้องกันการเซฟข้อมูลทับกันภายในไดรฟ์ของคุณ

การใช้ USB Flash Drive แบบนี้จะทำให้คุณใช้ Sentry Mode ที่จะช่วยบันทึกเหตุการณ์ขณะที่คุณไม่ได้ขับรถ อย่างไรก็ตามคุณต้องเปิดใช้งานด้วยตัวเองทุกครั้งที่ลงรถ โดยไปที่ Control > Safety > Sentry Mode > On.

 

2.Caraoke (คาร์ราโอเกะ)

โหมดคาราโอเกะของ Tesla จะนำพาให้คุณได้พบกับนักร้องเสียงเพราะ (หรือเสียงเพี้ยน) ซึ่งจะเปลี่ยนรถของคุณกลายเป็นร้านคาราโอเกะ ทั้งนี้หน้าจอของคุณจะแสดงเนื้อเพลงที่คุณเปิดร้องด้วย และสามารถใช้โหมดนี้ได้ในขณะขับรถ

หากอยากใช้โหมด Caraoke ให้ไปที่ เมนูเพลง ที่ด้านล่างของหน้าจอ > Caraoke

สามารถปิดเสียงร้องได้โดยการ แตะที่ไอคอนไมโครโฟนที่มุมด้านบน

และที่สำคัญต้องเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตโดยใช้ ​wifi hotspot หรือซื้อแพคเกจการใช้อินเทอร์เน็ตบนรถ Tesla ราคา 300 บาท/เดือน

 

 

3.Tesla Theater (โรงหนังบนรถ Tesla)

หากคุณต้องจอดรถเพื่อชาร์จแบตรถยนต์ของคุณ หรือว่าจอดที่ไหนสักที่เป็นเวลานาน โชคดีที่ Tesla มีฟีเจอร์ที่พร้อมสร้างความบันเทิงให้กับคุณผ่านบริการสตรีมมิ่ง เช่น Netflix และ Youtube วิธีเข้าถึงฟีเจอร์นี้ก็ไม่ยากแค่

เข้าไปที่ การควบคุม > ความบันเทิง > โรงหนัง

สำหรับท่านที่ต้องการดูสตรีมมิ่งของเจ้าอื่นเช่น HBO GO, Disney Plus Hotstar จะต้องเปิดผ่าน web browser เท่านั้น 

 

4.Change your suspension height (ปรับความสูงของช่วงล่าง เฉพาะรุ่น Model S เท่านั้น)

Tesla Model S มีระบบกันสะเทือนแบบยกถุงลมอัตโนมัติซึ่งจะเปลี่ยนไปตามสภาพการขับขี่ของคุณ ทำให้คุณได้รับสมรรถนะและคุณภาพการขับขี่ที่ดีที่สุดระหว่างขับรถ แต่คุณสามารถเปลี่ยนความสูงของช่วงล่างเองได้โดย

เข้าไปที่ การควบคุม > ช่วงล่าง

สามารถเลื่อนปรับความสูงได้ 4 ระดับได้แก่ สูงมาก สูง ปานกลาง และต่ำ

 

5.Reset your tire configuration (รีเซ็ตรูปทรงของยาง)

ยางรถถือว่าเป็นส่วนสำคัญกับระยะทางที่คุณได้รับ แต่เปลี่ยนยางแต่ละทีอาจทำให้ค่าประมาณของระยะทางของ Tesla ผิดเพี้ยนไป ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่คุณเปลี่ยนยางใหม่ คุณต้องรีเซ็ตการกำหนดค่ายาง ซึ่งจะเหมือนการทำให้รถลืมการตั้งค่ายางอันเก่า นอกจากนี้ยังรีเซ็ตการแจ้งเตือนการสึกหรอของยางและดอกยางโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะปรากฏขึ้นทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร

โดยรีเซ็ตผ่านเมนู การควบคุม > บริการ > การปรับแต่งล้อและยาง > ยาง บอกไว้ก่อนว่าคุณจะรีเซ็ตการปรับแต่งไม่ได้หากท่านไม่ได้เปลี่ยนยาง เพราะจะทำให้การเร่งความเร็วของรถและประสิทธิภาพการเบรกนั้นเปลี่ยนไป

 

6.Ludicrous mode (โหมดเพิ่มความเร็วในการออกตัว) 

Tesla เป็นรถที่ไฟฟ้าที่มีอัตราความเร็วที่สูงที่สุดบนท้องถนน โดยเฉพาะ Model S โดย Ludicrous mode เป็นการควบคุมการออกตัวรถจากทาง Tesla โดยเฉพาะ พร้อมทั้งทำหน้าที่ปรับปรุงซอฟต์แวร์และประสิทธิภาพการทำงานของรถอีกด้วย 

Ludicrous mode เพิ่มแรงบิดสูงสุดไว้ที่ 60% ขณะที่รุ่นใหม่อย่าง Ludicrous Plus ทำงานเหมือนกันกับรุ่นเดิม แต่ะจะทำแบตเตอรี่มีความร้อนจนอยู่ในอุณหภูมิการทำงานที่เหมาะสมเพื่อส่งพลังงาน 100% ที่มีอยู่ไปยังมอเตอร์ 

สามารถใช้งานโหมดนี้โดยไปที่ การควบคุม > คันเร่งและพวงมาลัย > การเร่งความเร็ว

 

7.Dog Mode (โหมดสำหรับคนรักน้องหมา และสัตว์เลี้ยง)

โดยโหมดนี้ออกแบบมาสำหรับเพื่อนรักขนฟูตัวโปรดของคุณ หากคุณไปทำธุระและต้องทิ้งน้องหมา,แมว หรือแม้แต่ลูกของท่านไว้บนรถ ระบบของ Tesla จะรักษาอุณหภูมิภายในรถไม่ว่าสภาพอากาศข้างนอกจะร้อนหรือฝนจะหนักแค่ไหน ยิ่งไปกว่านั้นหน้าจอจะแสดงผลว่ารถของคุณมีสัตว์เลี้ยงอยู่บนรถในขณะที่คุณออกไปทำธุระอีกด้วย

ในขณะที่โหมดนี้จะทำให้ Sentry Mode ทำงานไม่ได้ แต่ Tesla มีฟีเจอร์ที่ทำให้คุณดูสัตว์เลี้ยงของคุณได้เมื่อคุณลงจากรถมาแล้ว 

หากต้องการเปิดใช้งานโหมดนี้ ให้ไปที่หน้าจอควบคุม HVAC > แล้วกดที่ไอคอนรูปหมาทางด้านขวาที่เป็นรูปอุ้งเท้า

และอย่าลืมเช็คแบตเตอรี่ให้ดี ๆ เพราะโหมดนี้จะทำงานก็ต่อเมื่อมีแบตเตอรี่มากกว่า 20% เท่านั้น

 

8.Fart mode & other gimmicks (ขำขันไปกับเสียงตดและลูกเล่นอื่น )

อ่านไม่ผิดแน่ ๆ ใช่แล้วนี่คือโหมดเสียงตด คุณสามารถทำให้ Tesla ทำเสียงผายลมได้หลายแบบ ซึ่งเหมาะกับคนที่มีอารมณ์ขันอย่างคุณ วิธีใช้งานโหมดนี้ให้ไปที่

การเรียกใช้แอปพลิเคชั่น > กล่องของเล่น Tesla > โหมดการทดสอบการปล่อยมลพิษ ซึ่งคุณสามารถใช้ฟีเจอร์นี้เปลี่ยนเสียงสัญญาณไฟเลี้ยวให้เป็นเสียงผายลมได้ด้วย

นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนแอนิเมชั่นแผนที่ของคุณให้กลายเป็นพื้นผิวดาวอังคารได้ เปลี่ยนถนนให้เป็นแผ่นกระดาษได้ และเปลี่ยนถนนของคุณให้เป็นสายรุ้งเมื่อเปิด Autopilot ได้ รวมถึงการปรับแต่งเสียงจากลำโพงภายนอกด้วย Boombox

 

9.Speed limit mode (ขับขี่ปลอดภัยด้วย โหมดจำกัดความเร็ว)

รถสมัยนี้ก็มีการจำกัดความเร็วกันทั้งนั้น แล้ว Tesla เองก็มีเช่นกัน เมื่อเราไปที่เมนู หน้าจอ > ความปลอดภัยและสวัสดิภาพ > โหมดจำกัดความเร็ว จากนั้นปรับความเร็วด้วยลูกศรได้ 

ยังมีฟีเจอร์ที่คล้ายกันอีกนั่นคือ Valet Mode สามารถเปิดใช้งานได้ผ่านหน้าจอ โดยจำกัดความเร็วสูสุดของคุณไว้ที่ประมาณ 100 กม./ชม. ได้ด้วย หากต้องการเปิดใช้งาน ให้แตะชื่อโปรไฟล์ของคุณบนหน้าจอ > ตามด้วยโหมด Valet ในแถบเมนู > ป้อน PIN 4 หลัก จากนั้นการตั้งค่าจะเปิดใช้งานจนกว่าคุณจะปิดใช้งาน

 

10.Adjust maximum trunk height (ปรับความสูงของกระโปรงรถ)

เคยไหมที่เวลาเปิดกระโปรงหลังรถแล้วมันสูงเกินไปสำหรับคุณเองหรือแม้แต่สูงกว่าที่จอดรถของคุณ โชคดีที่คุณสามารถปรับความสูงด้วยตัวเองตามที่คุณต้องการ ทำได้โดย

ดึงฝากระโปรงหลังลงมาตามความสูงที่คุณต้องการ > จากนั้นกดปุ่มปิดฝากระโปรงหลังค้างไว้สามวินาที > รถจะส่งเสียงแจ้งเตือนให้กับคุณว่าพร้อมใช้งานแล้ว

 

11.Dismiss the Autopilot prompt (ใช้ Autopilot ได้ต่อเนื่องขึ้น) 

หากคุณใช้ Tesla Autopilot บ่อย ๆ คุณจะรู้ว่ารถของคุณจะเตือนให้คุณขยับพวงมาลัยเพื่อให้รู้ว่าคุณยังไม่หลับในระหว่างขับรถ

แต่ก็ยังมีวิธีที่ดีกว่า เมื่อใดก็ตามที่คุณได้รับคำเตือน Autopilot Attention สีน้ำเงินบนหน้าจอ คุณสามารถกดหรือหมุนเลื่อนปุ่มบนพวงมาลัยแทนได้ ข้อความแจ้งจะหายไป และคุณสามารถกลับไปใช้ Autopilot ได้อย่างสบายใจ

12.Joe Mode (โหมดสำหรับคนรักความสงบ)

หากรถ Tesla ของคุณมีเสียงเตือนที่ดังต่อคุณและผู้โดยสารบนรถมากจนเกินไป เราขอแนะนำ Joe Mode  เป็นโหมดที่ปรับเสียงแจ้งเตือนเหล่านั้นให้ลดลง 50% สาเหตุที่ใช้ชื่อว่า Joe Mode เนื่องจาก ต่างประเทศมักเจอผู้ชายที่ชื่อโจชอบมาโวยวายว่ารถยนต์ Tesla ชอบส่งเสียงดังจนรบกวนลูก ๆ ของเขา

คุณสามารถเปิดใช้งานโหมดนี้โดยไปที่ การควบคุม > ความปลอดภัยและสวัสดิภาพ > Joe Mode 

 

ที่มา – tomsguide

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Thanakrit Kongpon