Sahakrit S
Chery ค่ายรถยนต์สัญชาติจีน เตรียมส่ง OMODA 5 EV 100% บุกตลาดรถยนต์ไทยต้นปี 2024 และเสริมทัพด้วย Tiggo 8 Pro PHEV การกลับมาอีกครั้งของ Chery ในครั้งนี้ จึงมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก
Chery เตรียมบุกตลาดรถยนต์ในไทยอีกครั้ง ต้นปีหน้า ด้วยรุ่น OMODA 5 EV
Chery OMODA 5 EV ได้ทำการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในงาน Shanghai Auto Show 2023 และเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2023 ที่ผ่านมา ล่าสุดทาง Chery Group เผยว่า เตรียมส่งรุ่น OMODA 5 EV บุกตลาดรถยนต์ประเทศไทยในช่วงต้นปี 2024 โดยเป็นนำเข้าจากจีนทั้งคันก่อนในระยะแรก ด้วยภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดสำหรับรถยนต์พวงมาลัยขวา Chery จึงเข้าบุกตลาดแล้วในประเทศอินโดนีเซีย และตามมาด้วยประเทศมาเลเซีย ในครึ่งหลังของปี 2023 และคิวของประเทศไทยเป็นในปีถัดไป (2024) หลังจากได้รับความนิยมที่สุดในยุโรป, อเมริกาใต้, ตะวันออกกลาง และแอฟริกา
ก่อนหน้านี้ OMODA 5 รุ่นเครื่องยนต์สันดาปภายใน ได้กระแสตอบรับและมีการแลกเปลี่ยนกันของผู้ใช้ในโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก ซึ่ง OMODA 5 EV คันนี้ เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของ OMODA ซึ่งเป็นแบรนด์หนึ่งภายใต้ค่ายใหญ่อย่าง Chery เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ โดยมีแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากคนรุ่นใหม่ที่มีชีวิตชีวาที่ทันสมัย
ดีไซน์ภายนอก
มิติตัวรถของ OMODA 5 EV 4,400 x 1,820 x 1,580 มม. ระยะฐานล้อขนาด 2,630 มม. กระจังหน้าสไตล์เรียบหรูไม่ต้องมีตะแกรงรูปเพชรเพื่อระบายความร้อนเนื่องจากไม่มีเครื่องยนต์ ดีไซน์โฉบเฉี่ยวด้วยไฟ Daytime Running Lights รูปตัว T พร้อมไฟหน้าและไฟท้าย LED และล้อสปอร์ตขนาด 18 นิ้ว
ดีไซน์ภายใน
การตกแต่งภายในถูกออกแบบด้วยสีทูโทนทันสมัย มีหน้าจอคู่ขนาด 10.25 นิ้ว เบาะนั่งแบบสปอร์ต All-in-one คันเกียร์อยู่หลังพวงมาลัย แผงเครื่องปรับอากาศแบบเรืองแสงหลากสี ลำโพง Sony 8 จุด และฝากระโปรงหลังระบบไฟฟ้า
ขุมพลัง
OMODA รุ่นใหม่นี้ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าพร้อมมอเตอร์บนเพลาหน้า พลังขับเคลื่อน 165 kW 221 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 61 kWh สามารถวิ่งได้ระยะทาง 450 กม.(มาตรฐาน NEDC) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.8 วินาที และชาร์จเร็ว Fast Charge 0-80% ภายใน 35 นาที โดยโครงสร้างตัวถังผ่านมาตรฐานการทดสอบการชนระดับ 5 ดาว ของมาตรฐาน EURO NCAP
ส่วน OMODA 5 EV จะมี 2 รุ่นที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย คือ รุ่น Standard วิ่งได้ระยะทาง 450 กม. และรุ่น Premium วิ่งได้ระยะทางมากถึง 500 กม. (มาตรฐาน NEDC)
นอกจากรุ่น OMODA 5 EV แล้ว Chery ยังมีแผนที่จะส่งรุ่น Tiggo 8 Pro PHEV เข้ามาเสริมทัพด้วยกำลังขับเคลื่อน 145 kW และแรงบิด 290 นิวตันเมตร โดยรุ่น Tiggo 8 Pro PHEV รถ SUV ระดับพรีเมียม 7 ที่นั่ง พร้อมก้าวเข้ามายกระดับการขับขี่ของทุกคน ด้วยการออกแบบที่หรูหรา พร้อมด้วยความสะดวกสบาย และความปลอดภัย เพื่อตอบสนองนักธุรกิจที่กำลังเติบโต และทุกคนในครอบครัว
ทั้งนี้ Chery ได้เคยเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยแล้วเมื่อปี 2008 ภายใต้การนำเข้าและทำตลาดโดยกลุ่มไทยยานยนตร์ โดยมีรถยนต์ขนาดเล็ก ทั้ง Chery QQ และ Chery Tiggo การกลับมาอีกครั้งของ Chery ในครั้งนี้ จึงมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก
ที่มา – ประชาชาติธุรกิจ
