ก่อนหน้านี้เราคงจะได้เห็นการประกาศแผนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของ Toyota กันไปแล้ว ล่าสุดในงาน Automotive News Europe Congress ประธานบริษัท Toyota แห่งยุโรปก็ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความเป็นไปได้ที่ Toyota จะผลิตและวางขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) 100% ในยุโรป
ประธาน Toyota ยุโรปเผยว่าบริษัทพร้อมขายรถยนต์ไฟฟ้า 100% ในยุโรป ตั้งแต่ปี 2035 เป็นต้นไป
Matt Harrison ซีโอโอ Toyota ในยุโรป ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปว่า บริษัทยังไม่รองรับมาตรฐาน Euro 7 ที่เป็นมาตรฐานควบคุมการปล่อยมลพิษรถยนต์ของสหภาพยุโรป ที่กำหนดให้ผู้ผลิตรถยนต์ลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 55% ภายในปี 2030 (เทียบกับค่าพื้นฐานปี 2001)
โดย Harrison ได้อ้างอิงจากการคาดการณ์ส่วนแบ่งการขายรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota ในยุโรปว่า การขายจะเพิ่มขึ้นจาก 0% ในปี 2022 เป็น 15% ในปี 2025 และจะเพิ่มเป็น 55% ในปี 2030 ซึ่ง Toyota ยุโรปจะพร้อมขายรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) 100% โดยเลิกผลิตรถยนต์สันดาป ตั้งแต่ปี 2035 เป็นต้นไป ช้ากว่ามาตรฐาน Euro 7 ประมาณ 5 ปี
Harrison ได้กล่าวเสริมว่า การทำให้ส่วนแบ่งการขายเป็น 15% ในปี 2025 อาจทำได้ยาก เนื่องจาก Toyota ยังไม่มีแผนผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปเร็ว ๆ นี้ แต่ในอนาคตก็อาจจะเป็นไปได้
Toyota เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีไฮบริดมาตั้งแต่ปี 1997 ด้วยการเปิดตัวรถยนต์รุ่น Prius ที่เป็นรถยนต์ไฮบริดคันแรก แต่จนถึงปัจจุบันที่เป็นยุคของการแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เห็นได้ชัดเจนว่า Toyota ยังคงตามหลังอยู่พอสมควร
หลังจากที่ Akio Toyoda อดีตประธานบริหาร Toyota ได้ลงจากตำแหน่ง และให้ Koji Sato ขึ้นเป็นประธานบริหารคนใหม่ Toyota ก็ได้เร่งการเปลี่ยนผ่านเป็นรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทันที โดยการออกมาประกาศแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
Toyota เผยว่า บริษัทจะพัฒนาแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าของตนเอง โดยจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าเจนเนอเรชั่นถัดไปในปี 2026 มาพร้อมแบตเตอรี่ใหม่ที่มีประสิทธิภาพดีขึ้น ให้ระยะทางการขับขี่มากกว่า 900 กม. และเตรียมเปิดตัวแบตเตอรี่โซลิดสเตดขั้นสูง ที่ทำระยะทางได้เกือบ 1,500 กม. หลังจากปี 2028 เป็นต้นไป ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นก็ได้สนับสนุนแผนการพัฒนาของ Toyota มากกว่า 850 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ก็ต้องรอติดตามกันต่อไปว่าภายใน 2-5 ปีนี้ เราจะได้เห็นรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota กี่รุ่น และจะมีการพัฒนาแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเป็นไปตามแผนที่ประกาศไว้หรือไม่ ถ้าหาก Toyota สามารถผลิตแบตเตอรี่และเร่งการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามาตีตลาดได้มากขึ้น ก็อาจจะทำให้การเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์สันดาปมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota เร็วขึ้น
ที่มา electrek